แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ งาน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ งาน แสดงบทความทั้งหมด

17 มกราคม 2552

งามรุมทับหัวแล้วครับ

ผ่านไป 1 เดือนก็ได้เวลาดีมาเขียนบันทึกตอนใหม่ ว่าจะเขียนหลายวันแล้วแต่ก็รอให้มีเวลาว่างๆ ก่อนสักหน่อย เพราะช่วงนี้งานที่เขียนไว้จากครั้งที่แล้วทั้ง 4 งานกำลังรุมทับหัวข้าพเจ้าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงนี้กับงานสรุปเข้มฯ ครั้งที่ 5 ที่อดตาหลับขับตานอนทำงานแบบไม่พักผ่อนกันเลยทีเดียว

ปีนี้ก็น่าจะเป็นปีสุดท้ายที่ได้มาช่วยจัดกิจกรรมนี้แล้วกระมัง เลยมาช่วยงานอย่างสุดกำลังและความสามารถ ทำในหลายๆ งานและหน้าที่ ประดุจดังว่าเป็นพนักงานของสถานีวิทยุจุฬาฯ ก็ไม่ปาน เบื้องหลังหรือเบื้องหน้าก็พยายามเข้าไปยุ่งและข้องเกี่ยวกับเค้าไปเสียทุกอย่าง ก่อนที่จะไม่มีโอกาสมาทำอะไรแบบนี้แล้ว เพราะคงเป็นมนุษย์ออฟฟิศแทน

ขอ(แอบ)เรื่องสุขภาพตัวเอง พอพักผ่อนน้อยก็มีอาการต่างๆ เข้ามาทันที ไม่อยากไปหาหมอแล้ว ไม่อยากกินยาอะไร ไม่อยากผ่าตัดด้วย อยากมีชีวิตไร้สาระแบบคนปกติทั่วไป แต่ก็น่าจะไม่เป็นอะไรมากหรอก ถ้านอนหลับพักผ่อนเยอะๆ กินอาหารครบ 5 หมู่ มีเวลาไปออกกำลังกาย ร่างกายก็คงคืนสภาพได้เอง

หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น คงต้องรับสมัครคนที่สนใจจะมาดูแลชายหนุ่มคนนี้นะครับ เอิ๊กๆ ตอนนี้ยิ่งฟังเพลงรักๆ หรือเห็นคู่รักไม่ค่อยได้เลย ไม่งั้นจะรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง เอิ๊กๆ พอมาฟังเพลงเศร้าๆ น้ำตาก็คลอๆ ซึมๆ จนมีคนทักแล้วว่าทำไมแววตาดูเศร้าๆ ใครว่าข้าพเจ้าเศร้า ออกจะสนุกสนาน เฮฮา และร่าเริงสุดๆ

มาปิดท้ายกันด้วยเพลงใหม่ของแคลอรี่ บลา บลา ดีกว่า ตอนนี้ชอบเพลงนี้มากมาย รู้สึกโดนดีนะ ความจริงมีหลายเพลงที่โดนในตอนนี้ แต่หา MV เพลงนี้ได้ก่อนเลยเลือกเอาเพลง"อย่าไปไหนอีกนะ"มาปิดท้ายการเขียนบันทึกครั้งนี้ดีกว่า ยังไงเธอก็คงไม่กลับมาหรอกใช่ไหม แล้วข้าพเจ้าก็คงจะต้องรอคอยต่อไป....


เพลง: อย่าไปไหนอีกนะ
แคลอรี่ บลา บลา

ทุกวันตั้งแต่เธอเดินจากฉันไป
รู้ไหมเป็นยังไงอ้างว้างเพียงใดเมื่อไม่มีเธอ
ทุกคืนได้แต่ภาวนาให้เธอ ทบทวนใจตัวเอง
ให้พบความจริงว่าเธอรักใคร และกลับมาอยู่ตรงนี้

อย่าไปไหนอีกนะเธอ ถ้ายังรักฉันก็อภัย
อย่าไปไหนอีกเหมือนเคย ถ้าเธอรู้ว่าเธอรักใคร
อยู่ด้วยกันตรงนี้ ทุกวินาทีเรื่อยไป
อย่าหายไปอีก หายไปจากฉันอีกนะได้ไหมถ้าเธอรักกัน

น้ำตามันเอ่อล้นมาจากสองตา
เพราะมันเกินบรรยายที่ได้เจอกันเหมือนในวันวาน
เข้าใจและไม่มีอะไรต้องการ เรื่องราวในวันวาน
ที่ทิ้งกันไปก็จะไม่จำ ไม่ทำให้เธอหนักใจ

อย่าไปไหนอีกนะเธอ ถ้ายังรักฉันก็อภัย
อย่าไปไหนอีกเหมือนเคย ถ้าเธอรู้ว่าเธอรักใคร
อยู่ด้วยกันตรงนี้ ทุกวินาทีเรื่อยไป
อย่าหายไปอีก หายไปจากฉันอีกนะได้ไหมถ้าเธอรักกัน

วันเวลาของเราที่หายไป
ไม่เคยจะใส่ใจ เสียแล้วก็เสียไป
วันเวลาของเราที่เริ่มใหม่ สำคัญกว่า
หากเธออยู่เคียงข้างฉัน

อย่าไปไหนอีกนะเธอ ถ้ายังรักฉันก็อภัย
อย่าไปไหนอีกเหมือนเคย ถ้าเธอรู้ว่าเธอรักใคร
อยู่ด้วยกันตรงนี้ ทุกวินาทีเรื่อยไป
อย่าหายไปอีก หายไปจากฉันอีกนะได้ไหมถ้าเธอรักกัน




ปล.ในวันที่เธอไปหาคนอื่น รู้ไหมฉันฝืน ยืนมองตั้งนาน เขาไม่ได้รักเธออย่างจริงจัง รู้ไหม
ฉันรู้ว่าฉันให้เธอมากกว่า และมากกว่านี้ ฉันก็ให้เธอได้ ฉันมั่นใจ ฉันรอได้กว่าวันที่เธอมา....

18 ธันวาคม 2551

กลับมาเขียนบันทึก

ก่อนอื่นต้องขอโทษมิตรรักชาวบล็อกทั้งหลายที่ไม่ได้เขียนบันทึกมานานกว่าเดือนครึ่ง เพราะมีงานมากมายเข้ามารุมเร้าทำให้ไม่มีเวลาว่างสักเท่าไร ประกอบกับไม่มีคนอ่านเลย เขียนเองอ่านเองแบบนี้เลยหยุดเขียนก่อนสักพัก เอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นเสียหน่อย ตอนนี้พอมีเวลาว่างเลยกลับมาปั่นบล็อกอีกครั้งหนึ่ง

ช่วงที่ผ่านมาก็มีงานเข้ามามากมาย มากเสียจนช่างดูโหดร้ายกับข้าพเจ้ายิ่งนัก ทั้งงานหลวงและงานราษฎร์ แต่ทำไมมีแต่งานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แถมหลายๆ งานยังจะต้องเข้าเนื้อตัวเองอีก จะเรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำไหม ก็ไม่ค่อยน่าจดจำหลายอย่างนะ แต่ก็ช่างมันเสียเถิดเพราะในที่สุดแล้วข้าพเจ้าก็ผ่านพ้นมันมาได้

ช่วงนี้ก็มีงานนะไม่ใช่ว่าจะว่างงานแต่อย่างใด งานใหญ่ๆ ที่น่านักใจช่วงนี้มีถึง ๔ อย่างด้วยกัน คือ ๑.ซีเนียร์โปรเจ็ค(ถ้าไม่เสร็จ ก็ไม่จบ) ๒.สรุปเข้มฯ ครั้งที่๕(ไม่รู้จะเป็นปีสุดท้ายที่ได้ทำหรือเปล่า) ๓.ติดตามและประเมินผล(งานนี้ก็หนักหนาน่ายุบฝ่ายทิ้งเสียนะ) ๔.หนังสือจุฬาฯ บัณฑิต(งานที่ท้าทายภายใต้แรงกดดันสูงยิ่ง)

เอาเป็นว่าชีวิตช่วงนี้ข้าพเจ้าเต็มไปด้วยงานนะขอรับ ถ้าคิดถึงมากก็ต้องโทรหากันเอา เพราะ MSN ก็ไม่ค่อยจะออนไลน์ อินเทอร์เน็ตหอและคอมพ์ต่างแข่งกันเน่าลงเรื่อยๆ อีกไม่นานคงจะต้องยอมถอยคอมพ์ใหม่เสียแล้วมั้ง ส่วนความรักหลายคนคงคิดว่ากำลังหวานนะครับ บางทีความจริงอาจไม่เป็นอย่างที่ท่านๆ คิดกันก็ได้นะ

อีกไม่กี่วันก็ปีใหม่ วันก่อนก็พึ่งทำการ์ดแจกเพื่อนๆ และคนรู้จักไป เดี๋ยวถ้ามีอารมณ์และว่างจะ Save for web แล้วเอามาอัพให้ได้รับชมกันนะขอรับ วันนี้เลยเลือกเพลงนี้มาปิดท้ายบันทึกประจำครั้งนี้ เป็นเพลงเก่าพอสมควร MV ถ่ายได้เจ๋งดีนะ ตอนนี้อารมณ์ข้าพเจ้ากำลังประมาณนี้เห็นจะได้ คิดว่าคงมีคนมาให้ของขวัญข้าพเจ้าบ้างนะ จะดีใจมากๆ



เพลง : อยากได้
ออย วันศิริ

เห็นใครๆเขาดูมีความสุข ได้รับดอกไม้ช่อใหญ่
เสียงเค้าหัวเราะฟังดูสดใส คงเพราะว่าภายในใจเค้ารักกัน

แต่เมื่อย้อนมาดูตัวเอง ก็ไม่เห็นเคยเป็นอย่างนั้น
อยู่เพียงตัวคนเดียว และอยู่ไปวันวันหมดความหมาย

อยากได้ดอกไม้บ้าง อยากได้ของขวัญให้ฉันบ้าง จะมีทางเป็นจริงซักเมื่อไร
อยากมีความรักและอยากที่จะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อไรจะเจอซักที

ถ้าฉันมีเขาคงมีความสุข และคงได้ดอกไม้ช่อใหญ่
เสียงฉันหัวเราะคงฟังสดใส ก็เพราะมีใครสักคนที่รักกัน

แต่เมื่อย้อนมาดูตัวเอง ก็ไม่เห็นเคยเป็นอย่างนั้น
อยู่เพียงตัวคนเดียว และอยู่ไปวันวันหมดความหมาย

อยากได้ดอกไม้บ้าง อยากได้ของขวัญให้ฉันบ้าง จะมีทางเป็นจริงซักเมื่อไร
อยากมีความรักและอยากที่จะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อไรจะเจอซักที

อยากได้ดอกไม้บ้าง อยากได้ของขวัญให้ฉันบ้าง จะมีทางเป็นจริงซักเมื่อไร
อยากมีความรักและอยากที่จะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อไรจะเจอซักที

อยากได้ดอกไม้บ้าง อยากได้ของขวัญให้ฉันบ้าง จะมีทางเป็นจริงซักเมื่อไร
อยากมีความรักและอยากที่จะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อไรจะเจอซักที

อยากได้ดอกไม้บ้าง อยากได้ของขวัญให้ฉันบ้าง จะมีทางเป็นจริงซักเมื่อไร
อยากมีความรักและอยากที่จะมีเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อไรจะเจอซักที

เมื่อไรจะเจอซักที

เมื่อไรจะเจอ เจอเขาซักที





ปล. ของขวัญที่กำลังอยากได้ช่วงนี้นะ Notebook HP สักเครื่อง กล้อง DSLR สักตัว มือถือ Nokia N81 สักอัน ถ้าได้จริงๆ คงจะดีใจน่าดูเลย ไปนอนฝันต่อดีกว่า

15 ตุลาคม 2551

ปิดเทอมจริงเหรอครับ

สาบานได้นะครับว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาปิดเทอมเล็ก เป็นช่วงเวลาที่ให้นิสิตได้พักผ่อนและเตรียมตัวสำหรับการเรียนในภาคกลางศึกษาปลาย แต่ทำไมผมมีงานให้ทำมากมาย ทั้งงานราษฎร์และงานหลวง ได้ไปจุฬาฯ แทบทุกวันเลย ไม่ได้รู้สึกสักนิดเลยว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมเหมือนคนอื่นๆ เค้านะครับ

มีงานโปรเจ็คทั้งโปรเจ็ควิชาเรียนและซีเนียสโปรเจ็ค แถมยังเป็นงานกลุ่มด้วย ต้องรอให้เพื่อนมีอารมณ์อยากทำ แต่เวลาเพื่อนมีอารมณ์บางทีข้าพเจ้าก็ไม่มีอารมณ์อยากทำเลย ผลก็เลยเป็นงานที่ดองไว้ พอจะส่งทีก็รีบปั่นๆ ให้มันเสร็จๆ ลวกๆ ให้พอสุก ไม่ได้มีการสุกหอมกรุ่นพอดีทานเหมือนกลุ่มอื่นๆ หรอก

ส่วนอีกงานที่ใหญ่ช่วงนี้ก็งานสภานิสิต หลายๆ ครั้งที่ไฟในตัวเราลุกโชติช่วงจะทำอะไร ทั้งงานฝ่ายติดตามและประเมินผล งานวารสารVOICE แต่ก็มาเจอหลายคนที่ชิวๆ เกินไป ทำเอาเราไฟจะมอดหลายครั้ง(ด่าก็ขี้เกียจแล้ว) กลัวแต่มันจะพาลให้น้องใหม่ที่มีไฟในการทำงานจะไฟมอดลงไปด้วยนั่นสิ

นอกจากนั้นช่วงนี้ก็มาเรียนร้องเพลงด้วย เรียนพอขำๆ ให้ร้องเพลงไม่เพี้ยน แต่ก็ดูทีท่าว่ามันแค่เพี้ยนน้อยลง แต่ยังไงก็ผิดคีย์นรกเหมือนเดิม แล้วแต่ล่ะเพลงที่อาจารย์ดันเลือกให้ก็ช่างแบบว่าสะเทือนใจสุดๆ เพราะมีความรักกับเพลงเหล่านั้นทั้งนั้น ทั้งอยากรู้แต่ไม่อยากถาม(เธอคนนั้นขอให้เปิดให้ในรายการก่อนขึ้นเครื่อง) บัลลังก์เมฆ(ก็ไปดูละครเวทีมากับเธอ) กลัว(อารมณ์นี้ถึงเธอ) ภาวนา(เธอไปแล้วภาวนาไม่ทันล่ะ) เลือกได้ไหม(ไม่ได้แน่นอน) ตะวันยังมีให้เห็น(แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เจอกับเธออีกแล้ว) ร้องไปทีก็ได้แต่อารมณ์และความรู้สึกแต่ไม่ได้คีย์เลยให้ตายสิ

ปิดท้ายด้วยเพลงผูกพัน เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องยังไงก็รัก(ยังไม่เคยได้ดูเลยอ่ะ) เป็นเวอร์ชั่นพิเศษที่มีคนทำขึ้นมาครับดูแล้วเหงาและเศร้าได้อารมณืดี นั่งดูเพลินๆ แล้วสามารถร้องไห้ได้(เคยแล้ว) เป็นการนั่งรถไปชมกรุงเทพยามราตรีเพียงลำพังแต่เพียงผู้เดียว เหมือนชีวิตตอนนี้เลย

เพลง: ผูกพัน
บอย ตรัย ภูมิรัตน

นี่ใช่ไหม อะไร อะไรที่เคยคิด
ชีวิตที่มีแต่ฉัน ต่อจากนี้คงตัวคนเดียวอย่างที่คิด
นี่หรือที่ใจต้องการ นี่ใช่ไหมที่ฉันเคยฝันตลอดอยู่ในใจ
ชีวิตที่ไม่มีเธอรู้สึกเหมือนมันขาดอะไรไปไม่เข้าใจ

เก็บเรื่องราวที่มันเก่าๆใส่กล่องไว้ มองเห็นแล้วมันปวดร้าว
รูปถ่ายเราไปเที่ยวด้วยกันเมื่อตอนนั้น ตอนนี้ยิ่งดูยิ่งเศร้า

ไม่มีเสียงคำคำของเขาที่เราได้เคยฟัง
ไม่มีใครให้คอยมาไถ่ถาม เหลือเพียงแค่ความทรงจำ
ที่ย้ำให้รู้ว่า

เธอใช่ไหม ที่หัวใจของฉันผูกพัน
และคือเธอเท่านั้น วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ
ไม่มีเธอมันดูเหงาๆ ยิ้มเศร้าๆบอกตัวเองไว้
นี่ยังไงโลกที่ไม่มี เธอแล้ว

ขาดเธอไปวันนี้ จึงได้เจอความหมาย
ไม่มีเธอวันนี้ ฉันถึงเข้าใจ

เธอใช่ไหม ที่หัวใจของฉันผูกพัน
และคือเธอเท่านั้น วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ
ไม่มีเธอมันดูเหงาๆ ยิ้มเศร้าๆบอกตัวเองไว้
นี่ยังไงโลกที่ไม่มี เธอแล้ว

เธอใช่ไหม ที่หัวใจของฉันผูกพัน
และคือเธอเท่านั้น วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ
ไม่มีเธอมันดูเหงาๆ ยิ้มเศร้าๆบอกตัวเองไว้
นี่ยังไงโลกที่ไม่มี เธอแล้ว

นี่ยังไงโลกที่ไม่มีเธอแล้ว




ปล.ต่อไปคิดว่าจะต้องปิดท้ายด้วย MV จาก YouTube เรื่อยๆ มีหลากหลายเพลงให้ได้ใช้ดี

05 ตุลาคม 2551

งานในช่วงนี้

มีงานมากมายหลายอย่างมาให้ทำในช่วงนี้ อาจจะเป็นเพราะอยู่ปี ๔ ด้วยล่ะครับ จึงทำให้มีงานอะไรต่อมิอะไรให้ทำอย่างมากมาย เพราะอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ชีวิตของวัยทำงานแล้ว คงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรในฐานะนิสิตแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงนี้อยากทำอะไรมากมายเท่าที่แรงกายและแรงใจจะสามารถทำได้ไหวครับ

งานเรียนก็มีซีเนียสโปรเจ็คเป็นตัวหลักที่ยังเป็นลูกผีลูกคนกับเว็บที่ไปรับเงินทุนจากสมาคมนิสิตเก่าวิศวฯ จุฬาฯ มาทำ แรกๆ ก็มีไฟที่จะทำเยอะมากนะ แต่มันเป็นงานทีม ๓ คน ถึงเราจะไฟแรงแต่เพื่อนในทีมไม่มีไฟก็จะพาให้เราไฟมอดด้วย หรือเวลาเพื่อนมีไฟแล้วเราไฟมอดก็จอดเช่นกัน

งานจุฬาฯ วิชาการอันนี้ก็เป็นงานที่ใหญ่เหมือนกันนะ ๓ ปีมีครั้ง ตอนแรกก็ว่าจะไปทำของส่วนกลางและไม่ทำของสาขาตัวเองเพราะอยากปล่อยให้เพื่อนๆ ได้ทำงานดิ้นรนกันบ้าง สุดท้ายก็กลืนน้ำลายตัวเองมาช่วย ๒ โครงการใหญ่ๆ ทั้งเป็นผู้รับผิดชอบเว็บ ๑ โครงการและฝ่ายวิชาการจัดตอบแข่งขันตอบปัญหาด้านคอมพิวเตอร์

งานสภานิสิตเป็นงานใหม่ที่มาทำครับ แต่ก่อนเคยทำแต่ อบจ. แต่กลับมาจากน่านแล้วพี่เก่าๆ ที่รู้จักก็หายไปหมดเลยลองย้ายตัวเองมาทำสภานิสิตดู ก็สนุกดีนะครับมาทำ กมธ ฝ่ายติดตามและประเมินผล ต้องตั้งฝ่ายใหม่ให้กับสภานิสิต ตอนนี้ก็เรื่อยๆ มีปัญหาเรืองใหญ่ๆ ก็คือไม่มีคนอยากทำกิจกรรม แย่หน่อยครับ

งานวิทยุจุฬาฯ ช่วงนี้กลับมาเป็นนิสิตที่เรียนหนักเลยไม่ได้ไปแจมกับพี่ๆ ที่สถานีวิทยุเท่าไรนะ แต่เดือนมกราคมจะไปช่วยงานจัดติวของสถานีวิทยุแห่งจุฬาฯ แน่นอน เพราะไม่แน่ว่าอาจจะเป็นโครงการสุดท้ายที่จัดติวก็เป็นไปได้ อะไรก็อาจไม่แน่นอนบนโลกใบนี้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

งานเว็บเด็กดี ไม่ได้ทำงานเป็นตัวหลักมานานพอสมควรเพราะงานเรียนก็หนักแล้ว แต่ก็ยังดูๆ ห้องแชทบ้างและก็ไปช่วยๆ งานตามที่เว็บจัดกิจกรรมบาง เดี๋ยวนี้เด็กดีมีพนักงานมากขึ้นแล้วไม่เหมือนเมื่อก่อน เราเลยขอพักงานมาเรียนเต็มที่ได้ ตอนนี้ก็หวังว่าจบไปจะยังพอมีตำแหน่งเหลือๆ ให้ทำนะ ไม่งั้นก็อาจจะได้กลับไปอยู่บ้าน

งานในสาขา ก็มีเรื่อยๆ ตามสภาพของอุปนายกฝ่ายนอก ไหนๆ สาขาก็โดนปิดตัวลงไปแล้ว งานหลายๆ อย่างก็น้อยลงไป อย่างน้อยงานประชาสัมพันธ์และรับสมัครก็ไม่มี ไม่ต้องหาหลอกน้องให้มาเรียนพัฒนาซอฟต์แวร์ต่อไปเหมือนทุกปี ไม่ต้องตอบคำถามเด็กทาง MSN หรือทางโทรศัพท์แล้ว

ทำงานเยอะๆ ก็ดีอย่างนะ จะได้ดูว่าไม่ว่าง จะไม่ได้ต้องนั่งเหม่อเพ้อล่องลอย จะได้ไม่คิดมากบางเรื่องด้วย เอาเวลามาคิดเตรียมงานกับพักผ่อนแล้วก็เรียนก็พอแล้ว เคยยอมทิ้งงานเพื่อให้มีเวลาว่างๆ แต่เพื่ออะไรกับเวลาเล่านั้น เอาเวลากลับมาให้งานทั้งหลายต่อไป สู้ๆ นะครับวชิรัตน์ นายเข้มแข็งและแข็งแกร่งพอนะ!!