03 พฤศจิกายน 2551

งานที่สภานิสิต

เปิดเทอมสุดท้ายไปแล้วเป็นเวลา ๑ สัปดาห์ครับ มีเรื่องราวมากมายให้ทำเลย เรื่องการเรียนก็พอสมควร เรื่องกิจกรรมยิ่งมีเยอะกว่า ตอนนี้ข้าพเจ้ามารับตำแหน่งในสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างเต็มตัวแล้วครับ เป็น"ประธานกรรมธิการฝ่ายติดตามและประเมินผล" ชื่อฟังดูหรูหราแต่งานที่ทำไม่ได้ดูสวยงามเหมือนชื่อตำแหน่งหรอกนะครับ

นอกจากจะต้องติดตามและประเมินผลกิจกรรมต่างๆ ภายในจุฬาฯ เพื่อที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กิจกรรมที่จัดโดยนิสิตแล้ว ยังต้องมาสู้รบกับสมาชิกและเจ้าหน้าที่ในสภานิสิตด้วย เนื่องด้วยอยู่ปี ๔ แล้วเลยต้องช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของน้องๆ ภายในสภานิสิตด้วย ทั้งปัญหาเรื่องของคน(เยอะมากๆ) ปัญหาเรื่องงาน เรื่องเงิน รวมไปถึงเรื่องส่วนตัวของหลายๆ คนด้วย

บางทีก็สนุกดีนะมีอะไรให้ทำมากมาย บางทีก็เหนื่อยจนนั่งน้ำตาซึมว่าจะทำไปทำไม แต่สุดท้ายข้าพเจ้าก็ต้องทำให้เต็มที่ แม้ว่าหลายๆ อย่างที่ทำลงไปจะไม่ชอบใจตัวเอง หนือไม่ชอบใจคนอื่นๆ บ้าง แต่เพื่อส่วนรวมและเพื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ข้าพเจ้าก็พร้อมและยินยอมที่จะปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ ถึงแม้จะเป็นอย่างไรก็ตามแต่ก็จะพยายามให้สุดความสามารถ

ทำงานเยอะๆ จนไม่มีคนมารักหรือมาสนใจด้วยตอนนี้ เจอแฟนเก่าก็มีคนใหม่ไปแล้ว ก็ยินดีกับเค้าด้วยที่ได้เจอคนที่ดีกว่าข้าพเจ้า ส่วนตัวข้าพเจ้าเองก็คงต้องอยู่กับตัวเองต่อไป อยู่ปี ๔ แก่แล้วด้วยใครจะมาสนใจ หน้าตาก็ไม่ดีแถมหุ่นก็อ้วนกลม(พยายามลดแล้วนะน้ำหนัก ทรมานมากมาย แต่ก็ไม่สำเร็จ) ข้าพเจ้าก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง


เพลง : คนธรรมดา
The August Band

วันเวลาที่แสนสวยงามของเรา อาจจบเท่านั้น
เป็นเพียงเพราะเราใช้มันทำให้กันและกัน ต้องเสียใจ
เมื่อความเป็นจริงวันวานเมื่อวานนั้นผ่านไป
แต่เรายังหวัง ให้รักที่เหลือเจือจางเป็นดั่งเดิมทุกอย่าง

เราใฝ่ไปเกินฝัน จนเป็นความไม่เข้าใจ
เวลาจะแปรอะไรจากที่เป็น ไม่เว้นแม้รัก
ที่ผูกพันและเสียดาย
จนวันหนึ่งมันเปลี่ยนเราไปคล้ายใคร ไม่รู้จัก

บางทีเราเป็นเพียงคนโง่ บางทีเราเป็นเพียงคนเหงา
บางทีเราอาจเพียงต้องการแค่เรา ที่หายไป
บางทีเราเป็นเพียงคนหนึ่งธรรมดา ที่ไม่เข้าใจ
ในความหมายรักลึกซึ้ง และแสนยิ่งใหญ่
กว่าใครครอบครอง

เราเคยคิดว่า เราสองเราก็ต่าง เข้าใจในรัก
และพยายามทำเหมือนว่าเรารู้จัก ความไว้ใจ
ก็เคยสัญญาว่าไม่ครอบครอง เราแค่ประคองกันไว้
แต่ความรักนั้นทำให้ทุกอย่างมันไม่ง่าย

แล้วมันจะผ่านพ้นไปหรือเปล่า แล้วเราจะลืมได้เมื่อไร
แล้วใจที่พังยับเยินใครจะเอาไว้....

รัก คือที่มาของความสุข แต่รักก็เอามันคืนไป
ไม่รู้ ใครบอกฉันซักทีว่า ความรัก....มันคืออะไร มันคืออะไร ใครบอกฉัน....




ปล.ช่วงนี้ก็เป็นไมเกรนอีกแล้ว ข้าพเจ้าจะเลิกคิดมาก พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ทานช็อคโกแลตแล้ว แต่ขอไม่กินยานะ เหอๆ

28 ตุลาคม 2551

๒ วันหลังเปิดเทอม

เปิดเทอมผ่านมาได้ ๒ วันแล้วครับ พึ่งได้เรียนจริงๆ แค่วันเดียวเอง อีกวันไปนั่งๆ นอนๆ กลิ้งๆ บนสภานิสิตครับ เทอมนี้เรียนน้อยมาก แต่มีงานโปรเจ็คเพียบเลย ส่วนวันที่เรียนก็เรียนตั้งแต่เช้าจรดเย็น ชีวิตเด็กปี ๔ ดูตารางเรียนแปลกๆ แต่ก็ดีแล้วครับ เผื่อต้องไปต่างจังหวัดหรือไปค่ายไปรับจ๊อบอะไร จะได้ไม่ต้องห่วงการเรียนมากมาย

วันนี้ไปเรียนวิชาผู้ประกอบธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์(ชื่อประมาณนี้ล่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าถูกไหม) ที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมา สนุกดีครับอาจารย์คนที่สอนฮาได้ใจมากๆ รู้สึกเป็นการเรียนกับอาจารย์ที่สูงวัยหน่อยที่มาไปด้วยประสบการณ์และกลเม็ดในการทำให้นิสิตสนใจในการสอนของท่าน ไม่เหมือนอาจารย์อีกหลายๆ ท่านในจุฬาฯ ที่น่าจะพัฒนาและปรับปรุงการสอนของตัวเองได้แล้ว

ส่วนงานจุฬาฯ วิชาการก็ดูเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ต่อไป ก็จะปล่อยงานนี้เป็นไปตามยถากรรมแล้วกัน เพราะตอนนี้มาทุ่มเวลาเอาใจใส่กับฝ่ายติดตามและประเมินผล สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างที่ค่อนข้างชัดเจนขึ้นมามาก ได้น้องมาช่วยฝ่ายเกือบคนล่ะ ขาดไม่กี่คนแต่คิดว่าก็น่าจะพาฝ่ายนี้รอดต่อไปให้ได้ แม้จะแก่แล้วและต้องมาร่วมทีมกับน้องๆ ปี ๑ ที่แสนจะสนใส เพื่อเผชิญกับกิจกรรมต่างๆ นานา

ปิดท้ายช่วงเพลินเพลงกับหยกม่อนใน blogspot วันนี้ด้วยอีกหนึ่งเพลงที่ชอบพอสมควรของคริสติน จริงๆ แล้วเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ แต่ด้วยสปิริตของเธอที่อยากจะร้องเพลงไทย เพลงนี้เลยถูกแก้เนื้อใหม่เป็นภาษาไทย และเธอก็ร้องได้ไพเราะจนเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ถูกนำกลับมาทำใหม่เรื่อยๆ เพราะทุกคนยังตราตรึงในความทรงจำนั่นเอง


เพลง: ดาว
คริสติน

หากคืนนี้ มีดาวอยู่ล้านดวง
ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่ง ช่วยฟังฉันที
เพราะว่าคืนนี้ ฉันมีเรื่องร้อนใจ
อยากอธิษฐานและขอดวงดาวให้ ช่วยฉันสักที

เนื่องจากตอนนี้ ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว
อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง จากคำพูดวันนี้
เพราะฉันเพิ่งบอก....รักไป
และเขาก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ

เหมือนความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ
พรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุข หรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก...( ที )

หากว่าตัวเขา มีใจให้ฉันจริง
ฉันขอได้ไหมให้ทุกสิ่ง เป็นจริงเรื่อยไป
ให้ต่อจากวันนี้ เขามีแต่ฉันในหัวใจ
อยากอธิษฐานและขอดวงดาวให้ ช่วยฉันสักที

เนื่องจากตอนนี้ ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว
อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง จากคำพูดวันนี้
เพราะฉันเพิ่งบอก....รักไป
และเขาก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ

เหมือนความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ
พรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุข หรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก...( ที )

ช่วยบอกให้ฉันรู้...ให้มั่นใจ
การรอคอย มันยากเกินทนไหว
ได้โปรดช่วยบอกฉัน และตอบหน่อยได้ไหม
ว่าพรุ่งนี้เขากับฉัน นั้นจะเป็นยังไง

เพราะฉันเพิ่งบอก....รักไป
และเขาก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ
เหมือนความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ
พรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุข หรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก...( ที )




ปล.ถ้าเรารู้ว่าคนที่เราชอบคิดอย่างไร ก็คงไม่ต้องถามดาวหรอกนะ

26 ตุลาคม 2551

พรุ่งนี้เปิดเทอมๆ

ไม่น่าเชื่อว่าพรุ่งนี้(น่าจะ)เป็นการเปิดเทอมครั้งสุดท้ายในชีวิตแล้วครับ ตั้งแต่เปิดเทอมแรกตอนอยู่อนุบาล ๑ ที่โรงเรียนบ้านรัตนบุรี อุทิศวิทยา จนมาเปิดเทอมสุดท้ายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การเดินทางที่สุดแสนจะยาวนานเกือบ ๑๘ ปีของข้าพเจ้ากำลังจะสิ้นสุดลง พร้อมกับการจบชีวิตในช่วงแรก ก้าวเข้าสู่ชีวิตในช่วงชั้นต่อไปนั่นก็คือวัยทำงานครับ

เทอมสุดท้ายในชีวิตของการศึกษายังไม่ได้ทำอะไรต้องรีบๆ ทำเสียแล้ว ยังมีค่ายอีกหลายค่ายที่ไม่ได้ไปทำ ยังมีจังหวัดอีกเยอะที่ยังไม่ได้ไปเยือน ยังมีกิจกรรมอีกหลากหลายที่ยังไม่ได้ลอง ระยะเวลาอีกประมาณ ๔ เดือนที่เหลืออยู่ต้องรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการศึกษาและกิจกรรมทุกอย่าง ไม่ให้เพียงแค่จบไปมีแค่เพียงความรู้ แต่ไม่สามารถทำงานจริงอะไรได้เลยสักอย่าง

ล่าสุดมีโอกาสได้อ่านหนังสือเรื่อง A Peacock in the land of Penguins หรือชื่อภาษาไทยว่า นกอยู่ตัวหนึ่งในดินแดนของนกเพนกวิน ที่น้องคิมประธานสภานิสิตแนะนำและให้ยืมมาอ่าน รู้สึกชอบมากๆ ถ้าข้าพเจ้าได้ไปทำงานจริงจะเป็นอย่างไร ต้องไปเป็นนกเพนกวินไหม(ที่จริงก็เหมือนเพนกวินอยู่แล้วนะ เอิ๊กๆ) แต่ก็คงได้รู้ในไม่อีกกี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว

สุดท้ายก่อนจบต้องหาแฟนดีๆ ให้ได้สักคนแล้ว รับรองว่าข้าพเจ้าจะดูแลคนๆ นี้ให้ดีที่สุด ไม่งอแงทำแต่งานจนไม่มีเวลาให้ จะใส่ใจทุกรายละเอียดให้เต็มที่ ว่าแต่ว่าจะไปหาเค้าคนนั้นได้ที่ไหนกันหนอ จุฬาฯ ก็กว้างใหญ่แต่ยังไม่เคยมีแฟนเป็นเด็กจุฬาฯ กับเค้าบ้างเลย มาเอาใจช่วยข้าพเจ้าด้วยนะขอรับว่าจะทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จลุล่วงลงไปได้หรือไม่ ?


เพลง : ดวงตะวัน Sunshine
August band

ดวงตะวันยามเช้าส่อง ชีวิตผู้คนกำลังเคลื่อนไหว
ช่างดูสับสนเวียนวนวุ่นวาย และพาอะไรมากมายมาให้เรา

เดินบนทางอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว ชีวิตคนเดียวบางทีก็เหงา
ในวันที่ต้องทนผจญเรื่องเศร้า มองหาสักคนก็ไม่มี

กับคนที่คอยดูแลใส่ใจ ต้องเฝ้ารออีกแค่ไหนดี คนที่มีที่ให้เราพักพิง

จะไปที่ไหนและที่ไหน จะไปหาเค้าที่ไหน ต้องทำเช่นไรจะได้พบเค้า
คนที่คอยจะยืนอยู่เคียงข้างเรา ในวันที่ต้องเหงาขึ้นทุกวัน
ต้องไปที่ไหนและที่ไหน อยากรู้ว่าที่ไหน ถึงจะได้พบคนๆ นั้น
ก็ได้แต่ปล่อยเวลาผ่านเลยทุกวัน ฉันต้องรอต่อไป (ฉันต้องรอต่อไป)

ดวงตะวันลับฟ้าลง ชีวิตฉันคงยังไม่หยุดเคลื่อนไหว
ต้องคอยคืนวันผ่านนานอีกเท่าไหร่ จะได้พบใครที่ฉันรอ

คนที่คอยดูแลใส่ใจ ต้องเฝ้ารออีกแค่ไหนดี คนที่มีที่ให้เราพักพิง

จะไปที่ไหนและที่ไหน จะไปหาเค้าที่ไหน ต้องทำเช่นไรจะได้พบเค้า
คนที่คอยจะยืนอยู่เคียงข้างเรา ในวันที่ความเหงาก่อตัว เพิ่มขึ้นทุกวัน

จะไปที่ไหนและที่ไหน อยากรู้ว่าที่ไหน (จะไปหาเค้าที่ไหน)
ถึงจะได้พบคน ๆ นั้น ก็ได้แต่ปล่อยเวลาผ่านเลยทุกวัน
ฉันต้องรอต่อไป เพื่อพบใครซักคน




ปล. ไม่อยากพลาดทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเขียนบันทึกใหม่ สามารถกดตามติด blog ของข้าพเจ้าได้ บริเวรทางขวามือ

25 ตุลาคม 2551

วันธรรมดา

ช่วงนี้ข้าพเจ้าดูเหมือนบ้าพลังพอสมควรที่มาขยันเขียนบันทึกอยู่ได้ทุกวัน ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยมีคนมาอ่านกันสักเท่าไร แต่ก็จะพยายามเขียนต่อไปให้บ่อยมากที่สุด เผื่อว่าสักวันหนึ่งจะได้รวมเล่มขายเหมือนของดารากันบ้าง เอิ๊กๆ ฝันเพ้อไปไกลเลยทีเดียวเชียว เอาแค่ให้มีคนอ่านอย่างน้อยครั้งละ ๑๐ คนก็เป็นพระคุณเหลือล้นแล้วที่มีคนให้ความสนใจข้าพเจ้า

วันนี้นัดเจอแฟนเก่ามาครับ ไปทานข้าวกันเฉยๆ วันเกิดเค้า ถึงจะเลิกกันไปแต่ความห่วงใยดีๆ ยังมีให้กันเสมอ ไม่อยากให้เลิกกันแล้วมองหน้ากันไม่ติด แถมเลี้ยงข้าวแฟนเก่าและแฟนใหม่ของแฟนเก่าด้วย หุหุ ก็ยินดีกับน้องเค้าด้วยแล้วกันที่ได้เจอคนดีๆ กว่าข้าพเจ้า ขอให้รักกันไปยาวนานนะครับ ส่วนข้าพเจ้าคงจะอีกนานเลยกระมั้งถึงจะมีโอกาสมีแฟนกับเค้าได้ เพราะบ้างานเกินไป

มานั่งคิดๆ ดูตอนนี้ แฟนเก่า ๒ คน กับ คนที่เราเคยจีบแต่เค้าไม่สนใจอีก ๒ คน (รวมเป็น ๔ คน) ต่างก็มีแฟนใหม่เป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้วนะ แล้วทำไมข้าพเจ้าถึงยังไม่มี นั่นสิ? มั่วแต่บ้างานมากๆ เดี๋ยวก็คงได้แต่งกับงานแน่ๆ ก็มีคนที่มองๆ เล็งๆ ไว้เหมือนกันนะครับ แต่ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าเค้าคงไม่ได้ชอบกระผม ดูเค้าก็เริ่มตีตัวออกห่างเหมือนกัน เอิ๊กๆ

ตอนเดินกลับมาที่หอเห็นคนเดินกันเป็นคู่ๆ รู้สึกอิจฉานิดๆ ดีแล้วที่ไม่ไปดูหนังต่อ เพราะไปดูหนังคนเดียวแล้วจะเกิดอาการเซ็งอีก เดี๋ยวนี้หาเช่าแผ่นมาดูในคอมพ์ดีกว่า จะได้ไม่ต้องไปนั่งง่าวในโรงภาพยนตร์ นอนใต้ผ้าห่มบนที่นอนอบอุ่นสุดๆ แถมดูไม่ทันตอนไหนก็ย้อนไปดูได้ อยากทำธุระก็หยุดได้ ไม่ต้องไปตากแอร์หนาวๆ ในโณงหนังคนเดียว หุหุ


เพลง: อยากเป็นคนเดิม
แอน ธิติมา ประทุมทิพย์

เคยเป็นคนๆหนึ่ง ที่เคยใช้ชีวิตง่ายดาย
มั่นใจในตัวเอง เที่ยวเองคนเดียวบ่อยไป

เธอเป็นคนมาเปลี่ยน ที่มารักแล้วมาทิ้งไป
แล้วทำให้คนมั่นใจ กลายเป็นหวาดกลัว

หมดไปแล้ว ความเข้มแข็งอย่างนั้น
มีเพียงความเคว้งคว้างว่างเปล่า เท่านั้น

อยากเป็นคนเดิม ก่อนเธอเข้ามาเปลี่ยนแปลง
อยากเป็นคนเดิมแต่ดูเหมือนมันจะยากเกินจะทำ
ฉันคนเก่าที่เคยแข็งแรง เหมือนได้ตายจากไปแสนนาน
ก็เลยไม่รู้จะพ้นจะผ่านวันนี้ไปได้อย่างไร

กลายเป็นคนๆหนึ่ง ที่อ่อนไหวง่ายดายเหลือเกิน
เมื่อเดินคนเดียวก็เหงาเสียจนจับใจ

เธอเป็นคนมาเปลี่ยน ที่มารักแล้วมาทิ้งไป
แล้วทำให้คนมั่นใจ กลายเป็นหวาดกลัว

หมดไปแล้ว ความเข้มแข็งอย่างนั้น
มีเพียงความเคว้งคว้างว่างเปล่า เท่านั้น

อยากเป็นคนเดิม ก่อนเธอเข้ามาเปลี่ยนแปลง
อยากเป็นคนเดิมแต่ดูเหมือนมันจะยากเกินจะทำ
ฉันคนเก่าที่เคยแข็งแรง เหมือนได้ตายจากไปแสนนาน
ก็เลยไม่รู้จะพ้นจะผ่านวันนี้ไปได้อย่างไร

อยากเป็นคนเดิม ก่อนเธอเข้ามาเปลี่ยนแปลง
อยากเป็นคนเดิมแต่ดูเหมือนมันจะยากเกินจะทำ
ฉันคนเก่าที่เคยแข็งแรง เหมือนได้ตายจากไปแสนนาน
ก็เลยไม่รู้จะพ้นจะผ่านวันนี้ไปได้อย่างไร




ปล. ใครที่มาแสดงความคิดเห็นไว้ รบกวนลงชื่อด้วยนะครับ จะได้ตามไปขอบคุณได้ถูกครับ