...."พี่หยกเล่นไฮไฟว์ไหมค่ะ"....
...."หยกมีไฮไฟว์ไหม"....
...."แอดไฟว์กรูมาดิ"....
...."เดี๋ยวไปเม้นในไฟว์นะ"....
แล้วข้าพเจ้าจำเป็นต้องมีต้องไฮไฟว์เหมือนคนอื่นๆ เค้าด้วยเหรอ ????
จริงๆ โดยส่วนตัวก็รู้จักเจ้า Hi5 เนี่ยมานานแล้วนะ ประมาณ ๓ ปีแล้วมั้ง ก่อนที่กระแสฮิตๆ มันจะมีมาด้วยซ้ำ มันก็เป็น Web Log ยี่ห้อหนึ่ง โดยส่วนตัวตอนนั้นก็ทำ My.iD ที่เด็กดีอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดว่าจะทำไฮไฟว์ เพราะคนปกติก็น่าจะมีบล็อกแค่ที่เดียว(หรือเปล่า?) สรุปเลยไม่ได้ทำ
แต่ทุกวันนี้กระแสไฮไฟว์มันมากแรงมากๆ ข้อดีของมันอาจจะอยู่ตรงที่เป็น Social Networking ด้วย ก็คือเป็นสังคมเครือข่าย ประมาณว่าเราเป็นเพื่อนนายเอ เอเป็นเพื่อนบี บีเป็นเพื่อนโอ โอเป็นเพื่อนเรา อะไรแบบนี้ ทำให้เราจะได้พบหน้าเพื่อนที่ห่างกันไปนาน หรือญาติที่ไม่เคยรู้จัก ฯลฯ ดูเหมือนจะดีนะ แต่ข้าพเจ้าไม่ชอบ!!
ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งละที่มีโลกหลายโลก มันเป็นยังไงเหรอ คือแล้วแต่บทบาทในแต่ละงานหรือหน้าที่ไง เช่น อยู่บ้านก็จะเรียบร้อย อยู่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็จะบ้ากิจกรรม อยู่ในที่ทำงานก็จะทางการวิชาการ ฯลฯ ถ้าทำให้ทุกโลกมารวมกันแล้วสถานภาพและบทบาททางสังคมคงจะงงดี ยอมรับว่าดูเหมือนเป็นคนเลว ที่ในแต่ละงานจะแสดงบทบาทที่แตกต่างกัน แต่ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ผมเป็นชาวราศีเมถุนหนิครับ มีหลายด้าน หลายมุม
ตอนนี้เห็นกระแสเด็กไทยที่ใครๆ ก็มี Hi5 เป็นเรื่องปกติ ประดุจดังบัตรประจำตัวประชาชนที่ทุกคนต้องมีนอกจากโทรศัพท์มือถือกับอีเมลล์ไว้ออนเอ็ม ตกเย็นก็จะไปเม้นกันใน Hi5 (แล้วกลางวันทำไมพวกแกไม่คุยกันหรือคุยใน msn แทน) ใครไม่มีก็จะถูกมองว่าเฉย ตัวประหลาด มาจากประเทศไหน(ขอเถียงว่าต่างประเทศไม่ได้บ้า Hi5 เหมือนเด็กไทยนะ)
สรุปแล้วข้าพเจ้าควรจะทำ Hi5 ใช่ไหม ?
2 ความคิดเห็น:
ผมเพิ่งเล่นนะไฮไฟว์
มันก็หนุกดี
ทีแรกก็คิดเหมือนหยกนะ เรื่องการมีโลกหลายโลก
แต่ทำไปทำมา โลกฉันอยู่แต่หน้าคอมซะมาก
การมีไฮไฟว์ก็ช่วยให้คลายเหงาได้
ที่สำคัญคือ ได้เจอเพื่อนเก่า ที่ห่างหายกันไปนาน
เข้าไปดูรูปพวกมัน
บางตัว แต่งงานไปแล้วก็มี
อื่น ๆ อีกมากมาย
จริง ๆ ก็ไม่ชอบการรวมโลกเหมือนกันนะ
แต่ข้อดี หลาย ๆ ข้อ ที่ได้รับจากฮิห้า
ก็ทำลายความไม่อยากเล่นลงไปได้เลย
สำหรับเรา มันบำบัดเราได้ด้วยน่ะ
โช้ะ
อันความเห็นของท่านนั้น ต้องใจเรายิ่งนัก
อันด้วยสังคมในวันนี้ ได้เปลี่ยนแปลง และผิดแผกแตกต่างไปจากสังคมในอดีตที่เราได้เคยชินเป็นอันมาก ด้วยความก้าวไกลของเทคโนโลยี และพลังทั้ง 10 ประการที่ทำให้โลกแบนราบ (อ่านได้เพิ่มเติมใน The World is Flat เล่มที่ 1)นี้เอง ที่ทำให้สังคมของเราได้แปรเปลี่ยนไป
ซึ่งข้าพเจ้าก็เชื่อแน่ว่า ท่าน ท่านจะสามารถปรับตัวให้เท่าทันกระแสดังนี้ได้อย่างสมควร
ในกรณีของระบบ Hi5 ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้มี Hi5 อันใดเป็นตัวตนของตน ทั้งที่ได้มีผู้ที่ได้ทักท้วงติตึง และเรียกร้องเป็นจำนวนไม่น้อย ด้วยเหตุที่้ข้าพเจ้า ไม่ได้ศรัธราในวิธีการเพื่อขยายความเป็นที่รู้จักของบุคคลในลักษณะเช่นนี้ เนื่องจากในส่วนตัว เห็นว่าวิธีการดังกล่าว ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของในรู้จักมักคุ้นกันด้วยความจริง หากเป็นเพียงการมุ่งแต่งเสริม เติมเพิ่มความเป็นจริงให้มากไป ก็เพื่อประโยชน์แห่งตนเท่านั้น จึงมิได้มีความเป็นจริงที่แท้เท่าใดนัก ดังนั้นแล้ว การรู้จักกันโดยที่มิได้มีพื้นฐานอยู่บนความชอบด้วยธรรม และความจริงแห่งตัวตนนั้น จึงเป็นการรู้จักที่ไม่สมควรเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมยุคเสื่อมด้วยศีลธรรมเช่นปัจจุบัน
อนึ่ง การที่ท่านได้ปฏิบัติตน แตกต่างกันในแต่ละสถานะนั้น กลับเป็นสิ่งที่ชอบ ด้วยเป็นไปตามหลักอนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง และการไม่ยึดมั่ย ถือมั่นในตัวตนของตน กล่าวคือ คงหาจำเป็นไม่ที่ท่านจะต้องปฏิบัติตนให้เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ท่านได้ตั้งไว้ โดยไม่ลดละ หรือเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ การอันท่าน ได้ปรับเปลี่ยนตน ไปตามบทบาทหน้าที่ ถือเป็นสิ่งที่ชอบ ด้วยแต่ละหน้าที่ และบทบาทของท่าน ย่อมต้องการการแสดง และการกระทำของท่านที่ต่างกันออกไป ถ้าท่านสามารถทำได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็ถือเป็นยอดของบุคคลในอารยสากล
ขอให้ท่านได้คงความตั้งใจอันดีไว้ต่อไป ตราบนานเท่านาน
ขอขอบคุณที่ได้ข้าพเจ้าได้แสดงความเห็นโดยชอบ
แสดงความคิดเห็น