ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนั่งเรียนวิชา Data Comm อยู่ ก็เกิดอาการเรียนไม่รู้เรื่องแล้ว ขี้เกียจเรียนสุดๆ ไปเลย จะให้ทำอย่างไรดี เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีในการเปิดคอมพ์ต่อเน็ต แล้วก็เข้ามาเขียนบันทึกดีกว่า เหอๆ ปี ๔ แล้วแทนที่มันจะตั้งใจเรียน ไม่เคยเลย แล้วมาบอกว่าจะตั้งใจเรียนอัพเกรดเฉลี่ย - -"
เข้าสู่ประเด็นที่เขียนในวันนี้เลยแล้วกัน ข้าพเจ้าอยากเรียนร้องเพลงครับ เป็นคนที่ร้องเพลงเพี้ยนสุดกู่เลย ทั้งที่บิดาร้องเพลงได้เพราะมากมาย แต่ทำไมลูกชายถึงได้ร้องเพลงห่วยแบบนี้ เล่นดนตรีก็ไม่เป็น ร้องเพลงก็ไม่ได้เรื่อง มีอะไรดีสักอย่างไหมครับคุณชาย ไม่มี!!!!
ทำไมถึงจะมาบ้าอยากเรียนร้องเพลง เวลาที่เค้าไปร้องเพลงกันก็ต้องแบ่งๆ กันร้องใช่เปล่า แต่ผมก็จะออกตัวเลยว่าผมร้องเพลงห่วยนะครับ ทุกคนก็ยังจะพยายามให้ผมร้องดู บอกไม่มีใครร้องได้ดีหรอก ร้องกันเล่นๆ ขำๆ สนุกสนาน แต่พอผมจับไมค์แล้วเป็นอย่างไรล่ะ ทุกคนแทบขาดใจตายกันสุดๆ ไปเลย T_T
ใครรู้จักที่ไหนที่เค้าสอนร้องเพลง ราคาไม่แพงเกินสู้ไหว ก็รบกวนแนะนำมาที อยากร้องเพลงเป็นเพลงได้บ้าง ถ้ามีเวลาว่างๆ ก็อยากหัดเล่นดนตรีอีกด้วยนะ ไม่ไหวอ่ะ ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง เผื่อจะไว้ฝึกร้องเพลงรักกับเล่นเพลงรักได้บ้าง เอิ๊กๆ
.... อยากให้รู้ว่าเพลงรัก ถ้าร้องเพี้ยน ก็ร้องไม่ได้....
21 สิงหาคม 2551
19 สิงหาคม 2551
รักคือกำแพง
เพลงนี้ค่อนข้างเก่าสักหน่อย เป็นอีกเพลงที่ชอบทันทีตั้งแต่ได้ยินครั้งแรก ไม่รู้ว่าเพราะพลังเสียงขอ ซอ วงเดอะซิสส์ กีต้าร์คลาสสิคของ ป๊อป เดะซัน หรือจะเนื้อเพลงดีๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณกิ่งฉัตร(ใครที่เป็นแฟนนวนิยายคงรู้จักกันดี) ยิ่งพอได้มารับมิวสิควีดีโอฝีมือของคุณเอกสิทธิ์ยิ่งบอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมากๆ เสียงดายที่ไม่ดังเท่าที่ควร
เนื้อหาของเพลงเล่าผ่านในมุมมองของบุคคลที่หนึ่งตามแนวเพลงส่วนใหญ่ กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเค้ากับคน(ที่เค้า)รักไปในทางลบมากๆ เพราะรักของเค้าเปรียบเสมือนกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างคนสองคน ไม่ว่าเค้าจะพยายามทุกวิถีทาง ทำดีแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ก็มิอาจสามารถทำลายกำแพงอุปสรรคนี้ลงได้
เพลงนี้คงจะตรงกับชีวิตจริงของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว รวมไปถึงตัวของผมเองด้วย กำแพงนั้นบางทีก็ช่างสูง ใหญ่ และแกร่งเกินจะทำลายลงไปได้ แต่ก็มีวิธีข้ามไปอีกฝั่งของกำแพงได้โดยไม่ยาก หากอีกฝั่งยอมเปิดประตูให้ก้าวผ่านเข้าไป กำแพงก็ยังคงอยู่(แต่กับคนอื่น) และประตูหัวใจก็ได้เปิดเพื่อต้อนรับคนที่มีความรักและประสงค์ดีต่อคุณ
เนื้อหาของเพลงเล่าผ่านในมุมมองของบุคคลที่หนึ่งตามแนวเพลงส่วนใหญ่ กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเค้ากับคน(ที่เค้า)รักไปในทางลบมากๆ เพราะรักของเค้าเปรียบเสมือนกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างคนสองคน ไม่ว่าเค้าจะพยายามทุกวิถีทาง ทำดีแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ก็มิอาจสามารถทำลายกำแพงอุปสรรคนี้ลงได้
เพลงนี้คงจะตรงกับชีวิตจริงของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว รวมไปถึงตัวของผมเองด้วย กำแพงนั้นบางทีก็ช่างสูง ใหญ่ และแกร่งเกินจะทำลายลงไปได้ แต่ก็มีวิธีข้ามไปอีกฝั่งของกำแพงได้โดยไม่ยาก หากอีกฝั่งยอมเปิดประตูให้ก้าวผ่านเข้าไป กำแพงก็ยังคงอยู่(แต่กับคนอื่น) และประตูหัวใจก็ได้เปิดเพื่อต้อนรับคนที่มีความรักและประสงค์ดีต่อคุณ
18 สิงหาคม 2551
ปัดกวาดเช็ดถูก
ฝึกงานเสร็จไปก็เหมือนกับลืมไปว่ามีบล็อคแห่งนี้อยู่เลย ไม่ได้เข้ามาทำอะไรกับมันนานมากๆ อาจเป็นเพราะช่วงฝึกงานใช้เวลาที่ฝึกงานเขียนบันทึก เอิ๊กๆ (งานที่ฝึกงานเลยไม่เสร็จสักที!!) ระลึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เขียนบล็อคแห่งนี้ได้ เลยกลับมาปัดกวาดเช็ดถูมันเสียหน่อย หยากไย่ขึ้นเต็มไปหมดแล้ว ฝุ่นหนาหลายนิ้วแล้วด้วย - -"
ผ่านไป ๓ เดือนเป็นไงบ้างเหรอ งานเยอะมากๆ โปรเจ็คมากมาย อันไหนทำเดี่ยวได้ก็พยายามทำเดี่ยว อันไหนไม่ได้ก็ต้องทำเป็นกลุ่ม ใจจริงก็อยากทำเดี่ยวหมดนะ ไม่ใช่ว่าเก่งหรือเทพอะไรหรอกนะ แต่เพราะเป็นคนขี้เกียจ เลยไม่อยากทำให้เพื่อนๆ ทุกท่านมาซวยด้วย เลยพยายามเลี่ยงทำงานเดี่ยวไป แต่งานกลุ่มก็เยอะเหมือนกันนะ ทำยังไม่เสร็จด้วย
นอกจากนั้นก็ยังมีงานจุฬาฯ วิชาการอีก ว่าจะไม่รับผิดชอบงานอะไรแล้วแต่ก็ยังมีงานอีกมากมายที่ไปแจมกับเค้าจนได้ แล้วก็ยังมีงานที่สภานิสิตที่ได้ลองเข้าไปทำกับเค้าอีกงาน ก็สนุกดีนะได้ลองอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ และงานที่สำคัญอีกอย่างก็คือทำตัวเป็นปี ๔ ที่ดี เป็นรุ่นพี่ที่ดี ใช้ชีวิตนิสิตในปีสุดท้ายให้ดี เฮออออ อยากต่อโทต่างประเทศจังเลย
ตอนนี้ทั้งชีวิตทุ่มให้แต่การเรียนและการงานเท่านั้นแล้ว เรื่องอื่นๆ อาจจะมีผ่านๆ เข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่เอามาคิด(มาก)ให้รกสมองแล้ว เพื่ออนาคตที่ดีต้องเรียนๆๆๆๆ และทำงานๆๆๆๆ แต่ว่าตอนนี้ต้องไปประชุมงานจุฬาฯ วิชาการล่ะ ไปดีกว่า
ผ่านไป ๓ เดือนเป็นไงบ้างเหรอ งานเยอะมากๆ โปรเจ็คมากมาย อันไหนทำเดี่ยวได้ก็พยายามทำเดี่ยว อันไหนไม่ได้ก็ต้องทำเป็นกลุ่ม ใจจริงก็อยากทำเดี่ยวหมดนะ ไม่ใช่ว่าเก่งหรือเทพอะไรหรอกนะ แต่เพราะเป็นคนขี้เกียจ เลยไม่อยากทำให้เพื่อนๆ ทุกท่านมาซวยด้วย เลยพยายามเลี่ยงทำงานเดี่ยวไป แต่งานกลุ่มก็เยอะเหมือนกันนะ ทำยังไม่เสร็จด้วย
นอกจากนั้นก็ยังมีงานจุฬาฯ วิชาการอีก ว่าจะไม่รับผิดชอบงานอะไรแล้วแต่ก็ยังมีงานอีกมากมายที่ไปแจมกับเค้าจนได้ แล้วก็ยังมีงานที่สภานิสิตที่ได้ลองเข้าไปทำกับเค้าอีกงาน ก็สนุกดีนะได้ลองอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ และงานที่สำคัญอีกอย่างก็คือทำตัวเป็นปี ๔ ที่ดี เป็นรุ่นพี่ที่ดี ใช้ชีวิตนิสิตในปีสุดท้ายให้ดี เฮออออ อยากต่อโทต่างประเทศจังเลย
ตอนนี้ทั้งชีวิตทุ่มให้แต่การเรียนและการงานเท่านั้นแล้ว เรื่องอื่นๆ อาจจะมีผ่านๆ เข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่เอามาคิด(มาก)ให้รกสมองแล้ว เพื่ออนาคตที่ดีต้องเรียนๆๆๆๆ และทำงานๆๆๆๆ แต่ว่าตอนนี้ต้องไปประชุมงานจุฬาฯ วิชาการล่ะ ไปดีกว่า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)