08 เมษายน 2555

กลับมาเขียน Blog อย่างจริงจัง

สวัสดีมิตรรักชาว blog ของข้าพเจ้าครับ(ไม่เห็นมีสักคนเลยแหะ) ตอนนี้ตั้งใจว่าจะกลับมาเขียน blog ให้จริงจังอย่างเคยสักที ถึงแม้จะไม่มีแฟนคลับตามอ่านเหมือน blog ดารา หรือถึงแม้คนจะหนีไปเล่น facebook กันหมดแล้ว ข้าพเจ้าก็จะเขียน blog ที่นี่ต่อไปนะ จะพยายามให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี เผื่อเอาไว้กลับมานั่งอ่านเล่นเวลาที่ว่างๆ (มีเวลาแบบนั้นกับเค้าด้วยเหรอวะ - -")

จริงๆ blog นี้ก็เปิดเป็น public นะ แต่ไม่ค่อยมีคนมาอ่านหรือมาเม้นท์อะไรเท่าไร อาจจะเพราะเนื้อหาของ blog ที่เป็นบันทึกประจำวันทั่วไป ไม่ได้มีความรู้เฉพาะทางให้เหมือน guru ท่านอื่นๆ ที่มีสาระมากมายใน blog ของพวกเค้า แต่ blog ที่จะกลับมาเขียนใหม่ก็ยังจะคง concept เดิมครับ คือ บ่นกับบันทึกไปเรื่อย และก็พยายามจะหาเพลงมาปิดท้าย 1 เพลง เหมือนเคยอย่างที่เป็นมาแต่ในอดีตเมื่อหลายปีก่อน

เริ่มบ่นเรื่องแรกเลย คือ ตอนนี้ข้าพเจ้าเพิ่งสอบเสร็จหมดทุกวิชาในชั้นปีที่ 1 ของการเรียนระดับมหาบัณฑิตหรือ ป.โท นั่นเอง ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับ ข้อสอบยากมาก+ข้าพเจ้าโง่มาก ตอนนี้กลัว Gpax จะไม่ถึง 3.00 แล้วโดนรีไทร์มากๆ (ป.โท ห้ามเกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3.00 ครับ ไม่งั้นโดนให้ออกจากการศึกษาเพราะถือว่าโง่ไป)

นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังไปรับภาระของคณะมาไว้ นั่นคือประธานคณะกรรมการนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา คณะวิศวฯ จุฬาฯ สรุปง่ายๆ ก็คือเป็นนายกสโมสร ป.โท+ป.เอก ของที่วิศวฯ จุฬาฯ เนี่ยล่ะครับ มีงานมารอจ่อคิวแล้วตลอดทั้งปีการศึกษา 2555 ไม่รู้ว่าข้าพเจ้าจะทำรอดไหมเพราะเป็นประธานคนแรกด้วย(เค้าเพิ่งจัดตั้งได้ จริงๆ ก็ร่วมจัดตั้งกับเค้ามาด้วยแหละ) แอบคิดเล่นๆ ว่าถ้าข้าพเจ้าโดนรีไทร์เพราะเกรดไม่ถึง 3.00 จะทำไงดีวะเนี่ย เหอๆ

เอาล่ะครับ บ่นมาพอหอมปากหอมคอแล้ว มาปิดท้ายด้วยเพลงเพราะๆ กันสักหน่อยดีกว่า เหมือนวานดู The star แล้วคนที่มาแข่งร้องเพลงนี้ครับ เคยฟังเพลงนี้ครั้งแรกตอนที่ได้ไปดูหงส์เหนือมังกร เดอะมิวสิคเคิล โตโน่ร้องสดใช้ได้ทีเดียว โดยส่วนตัวชอบเนื้อหาของเพลงนี้นะครับ ฟังดูเศร้าๆ แต่ก็แอบอ้อนวอนหน่อยๆ เลยเป็นอีกเพลงที่ผมชอบและอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองฟังกันดูครับ

เพลง: ไม่เคยมีใครมารัก (เพลงประกอบละครเวที หงส์เหนือมังกร)
โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์

อยากจะขอโทษ ที่ทำร้าย
ที่ทำให้เธอต้องเจ็บช้ำ
อยากจะขอโทษที่ผิดซ้ำๆ
อยากให้รู้ อยู่ว่าฉันนั้นก็เสียใจ

ก็ตัวฉันมันคนแบบนี้
จะให้ฉันทำตัวอย่างไร
ไม่ได้ดีเลิศเลออย่างใครๆ
อยากให้รู้ว่าเป็นได้แค่เท่านี้เอง

เกิดมาไม่เคยมีใครมารัก
ก็เลยไม่รู้วิธีจะรัก ไม่เคยรู้จัก
เฝ้ารอให้ใครสักคนมารัก
เฝ้ารอให้ใครสักคน มาสอนรักแท้ให้ใจ

วันเวลาที่ล่วงเลยมา แค่ขอสักคนเข้าใจ
เธอจะรู้บ้างไหม คนนั้นที่ใจฉันขอคือเธอ

ก็ตัวฉันมันคนแบบนี้ จะยกโทษให้ฉันได้ไหม
ถ้าเธอหันหลังฉันต้องเดียวดาย
หมดทั้งใจฝากเอาไว้แล้วในมือเธอ

เกิดมาไม่เคยมีใครมารัก
ก็เลยไม่รู้วิธีจะรัก ไม่เคยรู้จัก
เฝ้ารอให้ใครสักคนมารัก
เฝ้ารอให้ใครสักคน มาสอนรักแท้ให้ใจ

วันเวลาที่ล่วงเลยมา แค่ขอสักคนเข้าใจ
เธอจะรู้บ้างไหม คนนั้นที่ใจฉันขอคือเธอ

เธอจะรักฉันได้ไหม เธอจะรักฉันได้ไหม


ป.ล. ถึงอย่างไรการมีคนรักก็ดีกว่าการมีคนเกลียด อยากให้มีคนมารักข้าพเจ้าเยอะๆ ครับ

09 มิถุนายน 2554

Can't Smile Without You - ยิ้มได้อย่างไร ถ้าไม่มีคุณ


Song: Can't Smile Without You

You know I can't smile without you
เธอรู้ไหม ว่าฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

I can't smile without you
ฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

I can't laugh and I can't sing
ฉันหัวเราะไม่ได้ และฉันก็ร้องเพลงไม่ได้

I'm finding it hard to do anything
ฉันจะพบว่าอะไรมันก็ยากไปหมดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

You see I feel sad when you're sad
เธอเห็นไหม ว่าฉันรู้สึกไม่ดี เมื่อใดที่เธอเศร้า

I feel glad when you're glad
ฉันรู้สึกดี เมื่อใดที่เธอมีความสุข

If you only knew what I'm going through
แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันได้ฝ่าฟันอะไรบ้าง

I just can't smile without you
ฉันก็แค่ยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

You came along just like a song
เธอผ่านเข้ามาเหมือนบทเพลง

And brighten my day
และทำให้ทุกวันของฉันนั้นสดใส

Who would of believed that you were part of a dream
ใครจะเชื่อล่ะว่าเธอคือส่วนหนึ่งของความฝัน

Now it all seems light years away
ตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเนิ่นนาน

And now you know I can't smile without you
และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

I can't smile without you
ฉันจะยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

I can't laugh and I can't sing
ฉันหัวเราะไม่ได้ และฉันก็ร้องเพลงไม่ได้

I'm finding it hard to do anything
ฉันจะพบว่าอะไรมันก็ยากไปหมดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

You see I feel sad when you're sad
เธอเห็นไหม ว่าฉันรู้สึกไม่ดี เมื่อใดที่เธอเศร้า

I feel glad when you're glad
ฉันรู้สึกดี เมื่อใดที่เธอมีความสุข

If you only knew what I'm going through
แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันได้ฝ่าฟันอะไรบ้าง

I just can't smile
ฉันก็แค่ยิ้มไม่ออกเลย

Now some people say happiness takes so very long to find
ใครบางคนบอกไว้ว่าเราอาจต้องใช้เวลามากมายกว่าจะพบกับความสุข

Well, I'm finding it hard leaving your love behind me
และฉันกำลังเรียนรู้ว่ามันยากเย็นแค่ไหนที่จะทิ้งความรักของเธอไว้เบื้องหลัง

And you see I can't smile without you
และเธอได้เห็นว่าฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

I can't smile without you
ฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

I can't laugh and I can't sing
ฉันหัวเราะก็ไม่ได้ ร้องเพลงก็ไม่ได้

I'm finding it hard to do anything
ฉันพบว่าจะทำอะไรมันก็ยากไปซะหมด

You see I feel glad when you're glad
เธอเห็นแล้วใช่ไหม ว่าฉันรู้สึกยินดีแค่ไหน เมื่อยามเธอมีความสุข

I feel sad when you're sad
ฉันเศร้าแค่ไหน เมื่อยามเธอเศร้า

If you only knew what I'm going through
ถ้าเธอจะรับรู้สักนิด ว่าฉันต้องผ่านอะไรบ้าง

I just can't smile without you
ฉันไม่สามารถจะยิ้มได้เลยนะ ถ้าฉันไม่มีเธอ

10 กรกฎาคม 2553

หายไปตั้ง 1 ปี

กลับมาปัดฝุ่นบล๊อกใหม่ก่อนเล็กน้อย มันมีอะไรให้ปรับแต่งเยอะเลย เลยแอลลังเลว่าจะกลับมาเขียนบล๊อกดีไหมเนี่ย และเขียนที่ไหนดีด้วย

05 กรกฎาคม 2552

วรวิชญวิทย์ ประเสริฐยิ่ง

อุตส่าห์พยายามว่าจะเขียนบันทึกก็ไม่มีโอกาสได้เขียนสักที สืบเนื่องด้วยงานที่มากมายและรุมเร้าจนไม่ได้ว่าง บวกกับอารมณ์ที่บางทีก็ไม่มีอารมณ์ที่อยากจะระบายออกมาเป็นคำพูดหรือหลักฐานไว้ สุดท้ายก็เลยต้องดองเค็มบันทึกของข้าพเจ้าไปเรื่อยๆ วันนี้พอมีเวลาว่างๆ หน่อย ตอนแรกก็อยากจะเขียนบันทึกระบายนะ แต่เปลี่ยนใจมาเขียนเกี่ยวกับตัวเองดีกว่า

จากคราวที่แล้วที่เคยบอกว่าได้ทำการเปลี่ยนชื่อใหม่ไป ก็ได้ไปหาฤกษ์และยามที่สะดวกจนได้ไปเปลี่ยนเมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา หลังจากที่ใช้ชื่อ"วชิรัตน์ ประเสริฐยิ่ง"มาเกือบ ๒๓ ปี ก็ไปทำการไปเปลี่ยนชื่อใหม่ ตอนแรกก็ว่าจะเปลี่ยนตั้งแต่มัธยมล่ะ แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะไปเลี่ยน โดยการดูดวงและเปลี่ยนชื่อทั้งหมดเป็นการทำด้วยตนเองครับ ไม่ได้ปรึกษาหมอดูสักหน่อย ดูเองเนี่ยล่ะ

ทำไมถึงเปลี่ยนเหรอ? เนื่องด้วยข้าพเจ้าเป็นคนที่งมงายและเชื่อในโหราศาสตร์นิดหน่อยครับ ชอบดูดวงเองไปเรื่อย นามสกุลดูแล้วมีแค่"ฐ"เป็นกาลกิณี แต่ชื่อเดิมเนี่ยพอวิเคราะห์ชื่อตามหลักเลขศาสตร์ตามคำทำนายโบราณ ท่านกล่าวไว้ว่า
กำลังดาวได้เลข 37 เลข 37 เป็นเลขน่ากลัว ระวังการทะเลาะวิวาท ความขัดแย้ง อุบัติเหตุ ตลอดจนโรคร้ายคอยรังควาญ ชีวิตไม่ค่อยราบรื่น 3 (อังคาร) ก็ร้าย 7 (เสาร์) ก็ใช่ย่อย เมื่ออยู่ด้วยกันทำให้ชีวิตขลุกขลัก ขึ้น ๆ ลง ๆ

พอนำมารวมกับนามสกุลแล้ววิเคราะห์ก็ได้ว่า
กำลังดาวได้เลข 88 เลข 88 ดับเบิล 8 ผาดโผนอย่างยิ่ง ขึ้นปรู๊ด ลงปร๊าดตื่นเต้นดี ราหูกำลังสองมักเอาแต่ใจตัว เชื่อตัวเองมากเกินไป ใครอย่ามาเตือนให้ยาก ระวังมรณกรรมผิดปกติ


เลยตัดสินใจจะเปลี่ยนชื่อไม่เปลี่ยนนามสกุล เพราะนามสกุลวิเคราะห์ชื่อตามหลักเลขศาสตร์ตามคำทำนายโบราณ ท่านกล่าวไว้ว่า
กำลังดาวได้เลข 51 เลข 51 ได้รับอิทธิพลจากดาวอาทิตย์ (1) และดาวพฤหัสบดี (5) ทำให้เป็นคนที่มีสติปัญญาแตกฉาน ปฏิภาณไหวพริบดี มีความสำเร็จในชีวิต นอกจากนั้น 1 กับ 5 รวมกันเป็น 6 คือดาวศุกร์ บ่งบอกถึงเป็นคนมีอารมณ์สุนทรีย์ รักในศิลปะ รสนิยมวิไล ชอบความรื่นรมย์ มีพรสวรรค์ มีฝีมือละเอียดอ่อนประณีต มักจะมองโลกในแง่ดีเสมอไม่ชอบเก็บตัว มีมิตรสหายมาก และเป็นที่รักของมิตรสหาย


แล้วนามสกุลที่มีอยู่ก็มีปัญหาอย่างว่าต้องหาชื่อมาประกอบไม่สั้นๆ ก็ต้องยาวมากๆ แล้วส่วนตัวอยากได้ ว.แหวน (ในวรรคเดช) เป็นตัวแรกของชื่อเหมือนเดิม ดูไปดูมาเปิดตำราไปมาก็ชอบคำว่า"วิชญวิทย์" อ่านว่า วิด-ชะ-ยะ-วิด ดูเป็นการเล่นคำดี และความหมายก็ดี แต่พอรวมกับนามสกุลแล้วเลขที่ได้ยังไม่ดีพอ เลยเติม"วร"เข้าไปให้ได้ความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

วรวิชญวิทย์ พอนำไปวิเคราะห์ชื่อตามหลักเลขศาสตร์ ตามคำทำนายโบราณ ท่านกล่าวไว้ว่า
กำลังดาวได้เลข 54 เลข 54 รวมกันได้ดาวเกตุ (9) เรียกว่ามี “องค์รักษา“ เป็นเลขที่แสดงถึงนิมิตรแห่งความสำเร็จ ชีวิตมักได้รับความคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นคนที่เรียนรู้ง่าย มีสติปัญญาแตกฉาน เข้าใจอะไรได้ง่าย อุปสรรคในชีวิตมีน้อย แต่ต้องระวังอุบัติเหตุจากยานพาหนะ และระวังเกี่ยวกับสายตา


พอนำไปรวมกับนามสกุลเป็น"วรวิชญวิทย์ ประเสริฐยิ่ง"แล้วนำไปคำนวน ตามคำทำนายโบราณ ท่านกล่าวไว้ว่า
กำลังดาวได้เลข 15 เลข 15 เป็นกำลังดาวจันทร์ เป็นคนมีเสน่ห์ มีปัญญา ปฏิภาณว่องไว เข้าได้กับคนทุกระดับ อ่านใจคนเก่ง มักจะมีผู้ใหญ่คอยให้การอุปถัมภ์ค้ำจุนช่วยเหลือตลอด มักจะได้รับของตอบแทน ทั้งสิ่งของและเงินทองจากบุคคลอื่นเสมอ แต่อาจเป็นคนขี้สงสารคนอื่น จึงทำให้ถูกหลอกได้ง่าย จึงต้องระวังเรื่องหูเบา อย่าเชื่อใจใครง่าย ๆ โดยไม่ไตร่ตรอง 1 กับ 5 รวมกันเป็น 6 คือดาวศุกร์ บ่งบอกถึงเป็นคนมีอารมณ์สุนทรีย์ รักในศิลปะ รสนิยมวิไล ชอบความรื่นรมย์ มีพรสวรรค์ มักจะมองโลกในแง่ดีเสมอไม่ชอบเก็บตัว มีมิตรสหายมาก และเป็นที่รักของมิตรสหาย เป็นนักพูดชั้นดี คารมดึงดูด เหมาะกับการเป็นนักปกครอง นักบริหาร


แถมอีกนิดๆ วิเคราะห์ชื่อตามหลักอายตนะ 6 ชื่อ วรวิชญวิทย์ มีค่าอายตนะ 6 เท่ากับ 8 ตามคำทำนายโบราณ ท่านกล่าวไว้ว่า
อายตนะ 6 หมายเลข 8 เปรียบดังเจ้าคนนายคน มีบารมี เป็นหัวหน้าเป็นผู้จัดการ เป็นที่เคารพยำเกรงแก่ผู้คน เจ้าชะตามักต้องแบกภาระ แต่มีความสุขกาย สุขใจดี มีอำนาจวาสนา มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมาก


สรุปเลยใช้ชื่อใหม่ว่า"วรวิชญวิทย์ ประเสริฐยิ่ง" และก็ชอบเวลาที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะ เพราะจะเขียนด้วย W ถึง ๓ ตัว เหมือน www เอิ๊กๆ Worawitchayawit Prasoetying และดูเป็นพ่อมดที่ฉลาดคล้ายๆ ความหมายภาษาไทยด้วยที่แปลกว่านักปราชญ์ที่ดีและมีความรู้ หุหุ เท่สุดๆ

ป.ล.บันทึกคราวนี้ยาวมากๆ เต็มไปด้วยความเชื่อและความงมงายล้วนๆ อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ